เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ เผยว่า เขายังคงติดหนี้บุญคุณก้อนใหญ่กับ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน นายใหญ่ทีมปีศาจแดง ที่ช่วยนำเขากลับเข้าสู่อาชีพนักฟุตบอลอีกครั้ง
เซอร์ อเล็กซ์ ได้เซ็นสัญญากับผู้รักษาประตูชาวดัทช์รายนี้สู่อ้อมกอดโอลด์ แทรฟฟอร์ด ในปี 2005 ซึ่งเป็นช่วงที่ ฟาน เดอร์ ซาร์ กำลังคิดว่าเขาไม่สามารถก้าวไปถึงจุดสูงสุดได้อีก
ด้วยอายุ 34 ปี และเล่นให้กับฟูแล่ม จึงอาจเป็นบทสรุปที่สมเหตุสมผลแล้วสำหรับผู้รักษาประตูที่เคยร่วมคว้าถ้วยสำคัญๆ ให้กับทั้งอาแจ็กซ์, ยูเวนตุส และทีมชาติฮอลแลนด์
“ตอนที่ผมมาอังกฤษเพื่อเล่นให้กับฟูแล่ม ผมไม่ได้คิดเลยว่าจะได้เข้ามาเล่นนัดชิงชนะเลิศของฟุตบอลยุโรปอีก” ฟาน เดอร์ ซาร์ กล่าว
“ช่วงที่อยู่ที่ คราเวน คอทเตจ ผมไปดูเกมแชมเปี้ยนส์ ลีก นัดที่เชลซี พบกับบาร์เซโลน่า และพบกับบาเยิร์น มิวนิค ผมจำได้ว่าเห็นโอลิเวอร์ คาห์น กำลังวอร์มอัพอยู่ ผมเลยคิดถึงตอนที่ตัวเองเคยทำแบบเขา แล้วก็ถามตัวเองว่า ต้องทำยังไงถึงจะได้กลับไปทำแบบนั้นอีก”
“คุณหวังว่าจะมีใครซักคนให้โอกาสคุณกลับไปทำแบบนั้นอีก และกับฟูแล่ม มันเป็นเรื่องยากมากเลยทีเดียว ผมจึงรู้สึกว่าเป็นบุญคุณมากเลยที่ได้มีโอกาสนี้อีกครั้งกับแมนฯ ยูไนเต็ด”
เซอร์ อเล็กซ์ มักจะซื้อนักเตะมาเพื่อวางแผนในอนาคตเสมอ โดยมักจะมองหานักเตะอายุน้อยที่พร้อมจะพัฒนาตัวเอง แต่สำหรับ ฟาน เดอร์ ซาร์ แล้ว ผู้จัดการทีมปีศาจแดงตระหนักว่า ผู้รักษาประตูอายุ 34 ปี ผู้นี้ มีประสบการณ์ที่ช่ำชอง และฝีมือที่เด็ดเดี่ยวอยู่แล้ว
“การย้ายจากทีมหนึ่งไปอีกทีมหนึ่งนั้น มันขึ้นอยู่กับโอกาส” ฟาน เดอร์ ซาร์ กล่าว “จะมีทีมไหนที่กำลังต้องการผู้รักษาประตูหรือเปล่า เรื่องอายุจะเป็นปัญหาไหม หรือเขาจะคิดว่าฝีมือเราเริ่มไม่ดีพอแล้ว”
“เราต้องให้คนอื่นตัดสินใจให้กับเรา ว่าเราเป็นผู้เล่นที่เหมาะสมสำหรับทีมของเขาหรือไม่ และผมก็รู้สึกดีใจมากเมื่อเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ให้โอกาสนี้แก่ผม”
ฟาน เดอร์ ซาร์ เป็นหนึ่งในห้าผู้เล่นของแมนฯ ยูไนเต็ด ที่มีประสบการณ์ลงเล่นในนัดชิงชนะเลิศแชมเปี้ยนส์ ลีก แล้ว (ผู้เล่นอีกสี่คนที่เหลือได้แก่ แกรี่ เนวิลล์ และ ไรอัน กิ๊กส์ ที่เคยลงเล่นนัดชิงให้กับแมนฯ ยูไนเต็ด, เอฟร่า และ โอเว่น ฮาร์กรีฟส์ ซึ่งเคยลงเล่นให้ทีมอื่น) และเขากล่าวว่า ประสบการณ์ของทีมผีแดงจะไขปัญหาทุกอย่างได้ในแมทช์วันพุธนี้
“ผมว่ามันสำคัญมาก” เขากล่าว “ทีมของเราต้องระมัดระวังให้ดีว่า สิ่งไหนที่ต้องทำ และสิ่งไหนที่ต้องไม่ทำ เพื่อให้เราสามารถคว้าชัยชนะได้อย่างมั่นใจ”
“ชัยชนะคือที่สุดของที่สุด แต่การพ่ายแพ้ก็เป็นจุดต่ำสุดด้วยเช่นกัน มันเป็นเรื่องใหญ่มาก เป็นการดีที่เราจะคุยกัน ผู้เล่นแต่ละคนจะได้รู้ว่าสิ่งที่เราต้องการจริงๆ คืออะไร และในที่สุด เราจะสามารถเอาชนะในการแข่งขันวันพุธนี้ได้”
“มันเป็นการแข่งขันที่ใหญ่ยิ่ง และผมรู้สึกว่า เรามีโอกาสอันเยี่ยมยอดที่จะคว้าชัยชนะ”
Opal